Apichai Talk!

ความเชื่อก่อเกิดปาฏิหารย์

สวัสดีวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทยนะครับ ก่อนอื่นข้าพเจ้าเป็นคน Gen X อายุ อานามก็ปาไป 54 ปี แล้ว จึงมีความเชื่อ เก่าๆ ของมงคลตามโบราณประเพณีเคยมีมา และที่สำคัญมักจะเป็นความลับเฉพาะตัว เฉพาะตน คนไม่ค่อยรุ้ ผมได้ความรู้มาเพียงเศษเสี้ยว และถ้าไม่ดีจริง คงไม่มีการบอกต่อๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น และในบทความนี้ ข้าพเจ้า ขอแจ้งก่อนอ่าน บทความว่า ” เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน “

ความเชื่อ ก่อเกิด ศรัทธา 
ศรัทธา ก่อเกิด ปาฏิหารย์

ผมเกิดในยุคที่เทคโนโลยีส่วนใหญ่เป็น Analog ยังไม่ล้ำสมัยเท่าทุกวันนี้ ยังเป็นยุคที่ Slow life อย่างมาก ปัจจุบันผมทำธุรกิจด้านพัฒนาซอฟท์แวร์ เป็น ซอฟท์แวร์ เฮ้าท์ ในช่วงเด็ก ทำให้ผมได้ยินเรื่อง ราวบอกเล่าเกี่ยวกับเครื่องราง ของขลัง มาพอควร เช่น เรื่อง รกแมว รกช้าง แห้ง ถ้านำมาพกติดตัว หรือ เก็บไว้ในบ้าน จะทำให้ค้าขายดี หรือ ที่เห็นบ้านทำก็เช่น มีกระดองเต่าตายพราย (ตายด้วยตัวมันเองไม่ได้ไปฆ่ามัน) มาไว้ที่เก็บเงิน อันนี้ก็ค้าขายดี ก็ยังมีอีกมากมายที่ได้พบเห็น เพราะเป็นลูกพ่อค้า และขายของชำมาตั้งแต่เล็ก

ในส่วนของงาช้างนั้น ครอบครัวเป็นคนไทยเชื้อสายจีน อาม่าที่เป็นคนจีนแท้ๆ ก็จะชอบงาช้างมาก และมักจะเล่าความเชื่อที่บอกต่อกันมาว่า เป็นของมงคล เสริมโชคชะตา  แต่ในเวลานั้น ผมยังเด็ก ไม่ค่อยสนใจหรืออินมากมาย เพียงแค่ได้ยินได้เห็นเท่านั้น

จนเวลาผ่านมาหลายสิบปี จนถึงปลายปี 2566 ผมมีความคิดอย่ากทำ Gallery งาน ART ที่สะสมมา และ อยากจะมีองค์ประธาน ที่ใหญ่สักหน่อย เลยตกลงที่ พระพิฆเนศ เพราะ เป็นเทพแห่งความสำเร็จ และงานศิลปะ จึงเหมาะกับ Gallery และเป็นองค์ยืน หุ่นจะสมาร์ท โชว์กล้ามเนื้อ และที่สำคัญ สิ่งที่องค์พระพิฆเนศถือคือ “งากำจัด” ข้าพเจ้าไม่อยากหล่องาเป็นโหละ เลยมีความคิดว่า จำเป็นต้องหางากำจัดจริงๆ ตอนแรก ก็เรียกงา เฉยๆ นี่แหละ แต่พอดี ได้เรียนปรัชญาตะวันออก และได้ศึกษา ฮินดู พราหมณ์ และตำนานพระพิฆเนศ ทำไมงาหัก เลยทำให้ทราบว่า งาของพระพิฆเนศ เรียกว่า “งากำจัด” เมื่อค้นหาเพิ่มเติมถึงได้เรียนรู้ว่า งากำจัด เป็นของทนสิทธิ์ มีฤทธิ์ในตนเอง (รายละเอียดของงากำจัด ผมเขียนไว้ในบทความก่อนหน้าแล้วครับ)

เมื่อทราบว่า งา ที่จะนำมาทำใช้ประดับองค์พระพิฆเนศนั้นเป็นงากำจัด และหายากมาก เพราะไม่ใช่งาจะหักกันได้บ่อยๆ และถ้ามีก็จะไม่ได้ขนาดที่ต้องการ เพราะคำว่างาหักในขณะที่ช้างมีชีวิตอยู่นี้ เราไม่สามารถกำหนดขนาดได้เลย และไม่รู้ด้วยว่าจะหาอย่างไร แต่ผมก็ค้นหาไปเรื่อย เพราะคิดว่า ถ้าเราคิดจะสร้างเดี๋ยว งาก็ปรากฏให้เราเอง เพียงเราไม่ลดความพยายาม ข้าพเจ้าใช้เวลาค้นหา ตามสถานที่ต่างๆ ร่วม 4 เดือน แล้ว วันที่ 3 มีนาคม 2567 ก็มาพบที่เพจ Baan Chang – บ้านช้าง  ซึ่งขายผลิตภัณฑ์จากช้างที่มีใบอนุญาตถูกต้อง

ติดต่อ สอบถาม พูดคุย ขนาด ความยาว โดยเฉพาะราคา ซึ่งก็เหมาะกับขนาดที่อยากได้ และความยากที่จะเกิด ทำให้ตกลง และเดินทางไปรับเองที่ร้านเลย ในวันที่ 4 มีนาคม 2567  ถึงร้านเวลาประมาณ 13.10 น. ก็ได้เข้าไปดูขนาดของงา และทางร้านก็ได้พาไปชมพิพิทภัณฑ์ช้าง ซึ่งทำให้ความรุ้เกี่ยวกับข้าง ของข้าพเจ้า เพิ่มพูนมากมายอย่างรวดเร็ว เพราะได้ทั้งฟัง และเห็นในเวลาเดียวกัน การจะได้เห็นของจริงๆ เป็นเรื่องยากมาก ลืมเล่าไปนิด ก่อนไปชมพิพิธภัณฑ์ช้าง ข้าพเจ้าได้พบกับท่านสมโรจน์ คูกิจติเกษม อดีตนายกเทศมนตรีจังหวัดสุรินทร์, เจ้าของปางช้างระดับประเทศ และเจ้าของพิพิธภัณฑ์ช้าง  (เดอะช้างโนวเลจพาร์ค) พบกันนิดหน่อย เพียงแสดงความเคารพผู้ใหญ่ และแนะนำตัวเท่านั้น เนื่องจากท่าน มีกิจธุระที่ต้องไปทำ

เมื่อชมเสร็จ ก็กลับมาเคลียร์ค่าใช้จ่าย และได้ accessory อาทิแหวน จี้ และ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นคือ คตงาช้างดำ ข้าพเจ้า เลยนำกลับไปพร้อมงากำจัดด้วยเช่นกัน

วันที่ 5 มีนาคม 2567 ตื่นมาก็ได้นั่งชมคตงาช้างดำ และงากำจัด ที่ได้มา และลงมือวาด องค์พระพิฆเนศต่อ เพื่อให้ได้ขนาด การจับถือที่พอดี ในระหว่างพัก ก็มาเปิด facebook เลื่อนดูเรื่องชาวบ้าน ทันใดนั้น เพจ Baan Chang – บ้านช้าง ก็เด้งขึ้นมาบอกว่า มีงากำจาย ขนาดใหญ่ (จริงๆ ใหญ่มาก ) เพิ่งหัก และมีเรื่องราว (ตามภาพประกอบ) ทำให้ตัดสินใจ สอบถามไป สอบถามไป สอบถามมา งาชิ้นนี้หัก 3 ท่อน เป็นชิ้นใหญ่ ขึ้นทะเบียนการครอบครองเรียบร้อย เพียงแต่ถ้าเราสนใจ สามารถโอนความเป็นเจ้าของได้

ภาพจากโพสต์ของเพจ Baan Chang – บ้านช้าง

จากพูดคุยกับความเชื่อที่เริ่มก่อเกิด จากตำนานพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพที่ข้าพเจ้านับถือเป็นทุนเดิม จึงตัดสินใจจองในวันนั้นเลย เหตุที่ไม่ได้เดินทางไปรับเลย มีสองสาเหตุคือ

  1. ต้องส่งเอกสาร เพื่อดำเนินการโอน และแจ้งครอบครองงาช้าง ทางเพจ Baan Chang – บ้านช้าง จัดการให้ครับ น่ารักมาก อันนี้ใช้เวลานิด
  2. ข้าพเจ้าต้องเดินทางไปประเทศอินเดียและเนปาล ในช่วงวันที่ 15-22 มีนาคม 2567

จากสาเหตุทั้งสอง เลยนัดไว้ช่วงปลายเดือน จะไปรับ แต่ด้วยหลังกลับจากอินเดีย-เนปาล งานรออยู่มากมาย จำเป็นต้องเคลียร์งานก่อน สุดท้ายได้นัดไปรับวันที่ 10 เมษายน 2567

เล่าเกริ่นมายาวมาก จริงๆ อยากจะสื่อบางสิ่ง ที่เกิดจาก ความเชื่อ มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ หรืออาจเป็นเพราะงากำจัดและคตงาช้างดำ ทำให้เกิดปาฏิหารย์ เพราะข้าพเจ้าได้รับการติดต่อจากบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ขอซื้อ Platform ที่ข้าพเจ้าพัฒนาไว้ใช้เอง เพื่อนำไปขายแบบ Subscription และทุกๆ ครั้งในการขาย ผมก็ยังได้รับส่วนแบ่งในทุกๆ Subscription อีกด้วย จึงเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในยามที่เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก กำลังแย่อยู่ในขณะนี้

จากความเชื่อ ก่อเกิดศรัทธา ศรัทธา ก่อนเกิด ปาฏิหารย์ คำๆ นี้ไม่เกินจริงนัก จากการที่ปีที่แล้ว 2566 กว่าจะผ่านมาได้ แถบลากเลือดเลย เปิดมา 2 เดือนแรกก็ยังมึนๆ แต่ก็ยังสู้ แต่พอวันที่ 4 มีนาคม 2567 ได้รับงากำจัด และคตงาช้างดำ ไว้ ติดตัว ปาฏิหารย์ก็ก่อเกิด ทำให้เดือนเมษายนนี้ หายใจ หายคอในเรื่องธุรกิจได้มาก (ย้ำ!  เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ)

วันที่ 10 เมษายน 2567 ข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปรับงาช้างกำจายขนาดใหญ่ ที่ขึ้นทะเบียน และโอนชื่อเรียบร้อย และได้พูดคุยกับท่านสมโรจน์ คูกิจติเกษม อดีตนายกเทศมนตรีจังหวัดสุรินทร์ ท่านยังได้พาชมพิพิธภัณฑ์ช้าง (เดอะช้างโนวเลจพาร์ค) ด้วยตัวของท่านเอง นับว่าท่านให้เกียรติกับข้าพเจ้าอย่างมาก นอกจากพาไปชมแล้ว ยังได้มอบ คตงาช้างดำ งาช้างดำแกะพระพิฆเนศ และงาช้างดำ 1 คู่ ให้เป็นที่ระลึก และเป็นมงคลแก่ข้าพเจ้าอีกด้วย ขอขอบคุณในความความเมตตา และเอ็นดู ที่มีให้แก่ข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยครับ

ถ่ายภาพคู่กับท่านสมโรจน์ คูกิจติเกษม อดีตนายกเทศมนตรีจังหวัดสุรินทร์

 

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ และย้ำว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน นะครับ

ความเชื่อ ก่อเกิด ศรัทธา 
ศรัทธา ก่อเกิด ปาฏิหารย์

 

 

 

ความเชื่อก่อเกิดปาฏิหารย์

Most Popular

To Top