Articles

วิริยะ และ พอเพียง

เช้าแรกของปี พ.ศ.๒๕๖๑ เช้านี้ข้าพเจ้าได้ตื่นขึ้นมาด้วยความอิ่มเอม ไร้ซึ่งความมึนงง หรือง่วงเหงา หาวนอน ดุจคนไม่ได้อดหลับอดนอนมาหลายคืน อาจเป็นเพราะ ข้าพเจ้าเลือกที่จะนอนข้ามปี ถือเป็นดิถีขึ้นปีใหม่ ที่เราจะได้นอนหลับอุ่นสบาย ดูถือเป็นกุศโลบายที่ดี แต่แท้จริงแล้ว แค่เพลียหลับไป ตื่น อีกทีก็ศกใหม่ ที่ทุกคนต่างส่งการ์ดยินดี กันในโลกของ Social Network กันมากมาย สีหน้ายินดี ปีดา

ข้าพเจ้า เห็นเพื่อนๆ หลายท่านได้ประกาศวางเป้าหมายชีวิตว่า ปีพ.ศ.๒๕๖๑ นี้ จะทำอะไรบ้าง ลดอะไรบ้างกันมากมาย และในทางกลับกัน ข้าพเจ้าก็ถูกถามเช่นกันว่า จะทำอะไรบ้างในปี พ.ศ.๒๕๖๑ นี้ ข้าพเจ้าก็ตอบไปอย่างตรงๆ ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งอะไรมากมาย สิ่งที่อยากทำ และทำตลอดคือ การสร้างสมดุลย์ระหว่างงานกับครอบครัวมากกว่า (น้องๆ ที่ยังไม่มีลูก อาจนึกไม่ออกว่า ถ้ามันไม่สมดุลย์ อะไรจะเกิดขึ้น) ส่วนเรื่องงานนั้น อดีตที่ผ่านมา มันกำหนดอนาคตเอง อันนี้เรื่องจริง


อดีตที่ผ่านมา เป็นตัวกำหนดอนาคต


ถ้าเราไม่ทำงาน หรือสร้างงาน อนาคตก็ไม่มีงาน ถ้าเราไม่ค้นหา สร้างมหามิตร คอนเน็กชั่นดีๆ ก็ไม่เกิด

เราสามารถสร้างอดีตที่ดี ให้กับอนาคตได้ ด้วยการลงมือทำวันนี้ให้ดีที่สุด

เพื่อที่ว่า มันจะกลายเป็นอดีตที่ดีให้กับวันพรุ่งนี้

และมีอีกหลายคนถามว่า ข้าพเจ้ายึดหลักอะไรในการสร้างอดีต อันนี้ตอบง่ายมากๆ

ข้าพเจ้าถือหลัก “อิทธิบาท 4”


“อิทธิบาท 4”

คือหนทางสู่ความสำเร็จ

พระพุทธเจ้า ได้ทรงสั่งสอนเรามากว่า 2560 ปี คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เป็นคำสอนที่ทำให้เรามีความร่ำรวย ความสำเร็จ และความสุข คำสอนของพระพุทธองค์ เราอาจหลงลืมไป แต่ไม่เคยสายที่จะกลับมาเรียนรู้และปฏิบัติ ประพฤติตามคำสอนของพระพุทธองค์ และคำสอนที่นำเราไปสู่ความสำเร็จ ความร่ำรวยและความสุข นั้นก็คือ “อิทธิบาท 4” นั่นเอง

ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่า สิ่งนี้คือเรื่องจริง เพราะ…

  • ฉันทะ นั้นหมายถึง เรารัก รักที่จะลงมือทำในสิ่งนั้นๆ รักอย่างลุ่มหลง รักอย่างไม่มีเงื่อนไข รักอย่างทุ่มสุดตัว รักแล้วรักเลย
  • วิริยะ นั้นหมายถึง เราอดทน อดทนทำในสิ่งที่เรารัก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำไปแม้มันยังไม่เห็นแสงตะวัน อดทนต่อคำพูดจาของคนอื่นที่ทำให้เราหยุด อดทนกับความยากลำบากทุกๆ สิ่ง อดทน อดทน และอดทน
  • จิตตะ นั้นหมายถึง เรามั่นคง ไม่หวั่นไหว วอกแวก แม้จะมีสิ่งรบกวนเข้ามา ทำให้จิตใจเราอ่อนไหว ใจเราต้องแน่วแน่ มั่นคง ไม่โอนอ่อนต่อสิ่งใด
  • วิมังสา นั้นหมายถึง ใฝ่เรียนรู้ หาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา เราต้องรู้มากกว่าคนอื่นๆ ในสิ่งที่เรารัก และลงมือทำ ดังนั้น เราต้องหาความรู้ใส่สมองตลอดเวลา อย่าเกียจคร้าน

นี่คือสิ่งที่จะทำให้อดีตดี อนาคตสวยงาม

ข้าพเจ้า ยังน้อมนำ พระราชดำรัสในหวลงร.9 ใส่เกล้า ใส่กระหม่อม ในเรื่อง “พอเพียง

ท้ายสุดนี้ ข้าพเจ้า เลยไม่ต้องเขียน หรือบอกอะไร ว่าจะต้องทำอะไรในปีใหม่นี้ เพราะงานของข้าพเจ้า ที่ทำในอดีต ยังส่งผลมายังอนาคต ให้ข้าพเจ้า ต้องทำในสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องมีวิมังสาในการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ มีจิตตะ ไม่หวั่นไหว กับสิ่งรบกวน มีวิริยะ คืออดทน เฝ้ารอ เพราะกว่าจะสำเร็จในแต่ละเรื่อง มันต้องใช้เวลา และสุดท้าย ต้องมี ฉันทะ คือ ทำในสิ่งที่เรารัก เราจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อย หล้า เพราะจะรู้สึกว่าอ่อนหล้า หรือเพลีย ก็คือ เราได้หลับไปแล้ว

“สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๑ ครับ”

 

 

 

วิริยะ และ พอเพียง

Most Popular

To Top