วันนี้อ่านข่าวเจอว่า คนไทย กว่า 60% ไม่พร้อมเกษียณ เรื่องนี้น่าจะจริง เพราะข้าพเจ้าก็กำลังเริ่มมาจัดการเรื่องการเงิน ในวัย 52 ย่าง 53 ปี และกรอปกับเพื่อนๆ ของข้าพเจ้า ก็สอบถามมามากมายว่า จะทำอย่างไรเกษียณแล้วถึงจะมีเงินใช้จ่าย
อืม! ใช่ เราจะจัดการเรื่องเงินตอนช่วงท้ายของชีวิตอย่างไร ทำให้ข้าพเจ้าได้ค้นคว้า หาข้อมูล และเริ่มลงมือเก็บเงิน เพื่อใช้ในวันที่ไม่สามารถทำงานได้ ผมเริ่มจากการปรับ Mindset ทางการเงินใหม่ และเริ่ม ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ทำให้เราเห็นว่า เงินเราหมดไปกับอะไร เมื่อเห็นแล้วว่าเราใช้อะไรไปและถ้ามันไม่มีประโยชน์ จ่ายเพื่อสนองความอยากเท่านั้น เราก็ลดเลิกสิ่งนั้นๆ ไป ทำให้เราเริ่มมีเงินเหลือ เราก็ได้นำเงินก้อนนั้นมาหยอดกระปุก เงินที่หยอดกระปุก ก็มาจากสองเส้นทางคือ หักทันทีจากรายรับของเรา 5-10% เก็บเข้าบัญชี และเงินที่เราใช้จ่ายประจำไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น นำเงินนั้น มาหยอดกระปุกด้วย จะทำให้เงินเราเริ่มมีเงินเก็บ และพอกพูน เมื่อเราเก็บเงินแล้ว ถ้ายังมีหนี้สินอยู่ เราก็ต้องปิดหนี้ และสูงสุดเท่าที่เราจ่ายได้ เพื่อหนี้นั้นจะได้หมดเร็วขึ้น ห้ามจ่าย ขั้นต่ำ เพราะจะทำให้เราเจอปรากฏการณ์ดอกเบี้ยทบต้น หนี้เราจะไม่หมดแต่กลับเพิ่มพูนขึ้น ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ วนๆ ไปในแต่ละเดือน จะทำให้เราเริ่มมีเงินเก็บ และเงินเก็บก้อนแรก เราต้องพยายามเก็บให้มีขนาด 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนของเรา โดยเงินก้อนนี้ เราเรียกมันว่า “เงินฉุกเฉิน” พอเก็บเงินมากกว่าเงินฉุกเฉิน เราก็จะเริ่มเก็บเงินไว้เป็นเงินออม ถ้าออมไว้จำนวนมาก ก็แบ่งมาลงทุน เพื่อให้มันงอกเงย มากและเร็วขึ้น (แต่การลงทุน ควรศึกษาให้ดีนะครับ เพราะมีความเสี่ยง) และสุดท้าย พยายามหาเงินให้มาก ใช้จ่ายให้น้อย เท่าที่จำเป็น ครับ ทำวนๆ ไป เพียงหนึ่งปี เราก็จะเห็นว่า เราเริ่มมีเงินออม เก็บไว้ยามเกษียณแน่นอน
เขียนซะยืดยาว ผมจึงพอสรุป ออกได้เป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
- ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
- เก็บก่อนใช้ (5-10%)
- ไม่ก่อหนี้ใหม่ (พยายามปิดหนี้เก่าให้หมด)
- เก็บ “เงินฉุกเฉิน” ให้มีขนาด 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
- หาให้มาก ใช้ให้น้อย
เป็นไงบ้างครับ เพียง 5 ข้อ ก็ทำให้เราข้ามจาก 60% มาอยู่ฝั่ง 40% แล้วนะครับ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนนะครับ ส่วนผมก็ก้มหน้าก้มตาทำสิ่งที่กล่าวมาวนๆ ไปแบบมีความสุขครับ